มาต่อกันเรื่องไข้หัดแมว อันลื่อเลื่อง กระเดื่องปฐพีกันต่อนะคับ จากตอนที่แล้ว
ที่อาการเริ่มต้นของน้องแมวสุดรัก จะแสดงให้เห็นว่าป่วยเป็นหัด คือ ซึมเศร้า เหงา
เพราะไม่มีคนกอด เอ๊ยยยย ไม่ใช่คับ นอนซึมเศร้า ดวงตาไม่สดใส ไม่สุงสิงกับใคร
บอกก่อนว่าใช้กับแมวไทยนะคับ แมวเปอร์เซียซึ่งเค้าเป็นแมวนิ่งๆๆ ไม่ค่อยพูดจา
โวยวาย โหวกเหวก เหมือนแมวไทยซึ่งวิฬาร์สัมพันธ์ดีเป็นที่หนึ่ง เท่านั้น
นั่นแหละ ใช่หากเฝ้าดูต่อไป ไม่กินอาหาร เบื่อ ๆ เซ็งๆ
หลังจากนั้นเริ่มเดินเป๋ ซ้ายที ขวาที นั่นปะไร
นั่นน่ะชัวร์ 100 เปอร์เซ็นต์
จริงๆควรเอาไปพบสัตว์แพทย์ ตั้งแต่น้องเหมียว ซึมไม่กินข้าว กินน้ำแล้วแหละคับ
อย่าปล่อยไว้จนน้องเหมียวเดินเป๋เลย
อาการแบบนั้น เรียกว่าเข้าขั้นโคม่าแล้ว จะรักษายาก
เพราะเชื้อเข้าถึงระบบการทรงตัวของน้องแมวแล้ว คุณหมอก้อเพียงแต่ให้น้ำเกลือ
ยาฆ่าเชื้อ และยาบำรุงเท่านั้น
เพราะถึงขั้นนี้ต้องอาศัยภูมิคุ้มกันหรือที่เรียกเท่ห์ๆว่า แอนติบอดี้นั้นแหละคับ
ของน้องแมวเอง ที่จะก่อให้เกิดขึ้นหลังจากที่น้องเหมียว ต่อสู้กับเชื้อไข้ ยาหมอก็เพียงประคองให้น้องต้องต่อสู้กับเชื้อร้าย
หรือที่คุณหมอชอบบอกว่า “รักษาตามอาการ“ นั่นแหละ เป็นไข้ก็ให้ยาลดไข้
อะไรประมาณนั้น...ถึงเวลานี้ก้อต้องวัดดวงเอากันเองกับเจ้าของว่าใครจะอึด อดทน
กว่ากัน ระหว่าง เจ้าของป้อนยา
ให้น้องเหมียว น้องเหมียว
ต่อสู้เชื้อตัวร้าย หรือเจ้าเชื้อตัวร้ายจะทำลายตัวน้องเหมียว
เป็นศึกสามฝ่ายที่มีชีวิตของน้องเหมียวเป็นเดิมพันกันเลยทีเดียว ทำยังกับหนังสามก๊กแหนะ
555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น